วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม

วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม (Wat Pa Sri Mongkhon Rattanaram) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดบ้านสิม ตำบลโคกจาน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมาชมความงดงามภายในวัด ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพระพุทธศาสนา แห่งเดียวในอีสานใต้ และยังเป็นที่ฝึกอบรมการปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานสำหรับประชาชนทั่วไป

จากตัวเมืองศรีสะเกษไปยังวัดป่าศรีมงคลรัตนารามมีระยะทางประมาณ 41.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังวัดป่าศรีมงคลรัตนารามได้ 

 

วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 โดยการบริจาคที่นาของ นายหวยและนางสมัย เพ็งพันธ์ รวม 50 ไร่ เป็นวัดป่าสายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน ฝ่ายธรรมยุติ ปัจจุบันมีพระภิกษุสามเณรจำพรรษา 20 รูป ต่อมา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปยังวัดป่าศรีมงคลรัตนาราม อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ทรงวางศิลาฤกษ์ พระมหาเจดีย์ศรีมงคลเกศแก้วมณีเศรษฐียามารามสิทธิราชบูชา ซึ่งพระครูวิจิตรวินัยคุณ เจ้าอาวาสและพุทธศาสนิกชนร่วมกันจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่บรรจุพพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย รวมถึงพระเกศาธาตุและพระอัฐิธาตุของพระอรหันต์ และใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ เพื่อสืบทอดศาสนา

สถานที่ท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาแห่งหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมของสายมู เนื่องจากมีหลายคนที่เดินทางมาแล้ว ได้รับโชคลาภตามปรารถนา สถานที่แห่งนี้ก็คือ ถ้ำนาคาธิบดี วังพญานาคที่สร้างขึ้นตามตำนานขององค์พญานาคาธิบดีทั้ง 9 พระองค์ ความอลังการด้วยรูปปั้นพญานาคที่อ่อนช้อยงดงาม รวมทั้งการจำลองหินงอกหินย้อย ประดับด้วยหลอดไฟหลากสี ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในถ้ำพญานาคใต้น้ำที่ดูลึกลับและศักดิ์สิทธิ์

วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม กำลังดำเนินการจัดสร้างพระมหาเจดีย์ศรีมงคลเกศแก้วมณีเศรษฐียามารามสูง 59 เมตร เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุซึ่งอัญเชิญมาจากประเทศอินเดียและพระมหาธาตุเจดีย์องค์นี้จัดสร้างขึ้นตามความเชื่อสมัยพุทธกาลคืออยู่บนเขาพระสุเมรุ และบริเวณวัดร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดสงบเงียบเหมาะที่จะนั่งสมาธิกรรมฐาน

การจำลองรูปแบบให้คล้ายตั้งอยู่บนเขาพระสุเมรี เป็นเจดีย์ สูง 59 เมตร รวม 5 ชั้น ชั้นที่ 1 และ 2 ใช้ประกอบศาสนกิจ 

ชั้นที่ 1 ภายในถ้ำ ประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาว และรูปปั้นพญานาคตามวรรณคดีที่อ่อนช้อยงดงาม 2 ตน คอยปกปักษ์รักษา อีกทั้งยังมีการประดับไฟหลายสีสันอย่างสวยงาม โดยชั้นที่ 2-5 ยังไม่เปิดให้เข้าชม ซึ่ง

ชั้นที่ 2 ได้ทำการก่อสร้างให้เปรียบเสมือนเป็นเขาพระสุเมรุ เชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับเทวดา

ชั้นที่ 3 เป็นอุโบสถ์ สำหรับทำสังฆกรรม และเป็นพิพิธภัณฑ์มหาราช จัดแสดงพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านของจังหวัดศรีสะเกษ 

ชั้นที่ 4 บรรจุพระเกศาธาตุและพระอัฐิธาตุของพระอรหันต์ ชั้นที่ 5 บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า

วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม  มีถ้ำพญานาคจำลองจากพุทธประวัติที่ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยเสวยชาติเป็นพญานาค ซึ่งภายในถ้ำมีความสวยงามและน่าเลื่อมใสจากผลงานหินสลักลายพญานาคอย่างวิจิตบรรจง 

วัดป่าศรีมงคลรัตนารามจึงได้สร้างเป็นถ้ำพญานาคราชเพื่อย้อนตำนานพุทธประวัติสมัยพุทธกาลเกี่ยวกับพญานาคราชผู้มีฤทธิ์สถิตเมืองใต้บาดาลปกป้องดูแลพระพุทธเจ้าสมัยพุทธกาล ด้วยเหตุผลนี้จึงมีการสร้างองค์พระพุทธรูปปางนาคปรก 7 เศียร และน่าจะเก่าแก่ที่สุดคือสมัยขอมเรืองอำนาจ เพราะได้ขุดค้นพบมากตามปราสาทโบราณของขอม สำหรับ

 จุดเด่นภายในถ้ำจำลองคือพญานาคราชล้อมรอบองค์พระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระประธานที่ประดิษฐานในถ้ำแห่งนี้ จัดสร้างเป็นสีขาวปางสมาธิ พุทธลักษณะงดงาม และถ้ำพญานาคราชทางวัดได้ประกอบพิธีอัญเชิญและบรวงสรวงบรรจุดวงใจ สายพญานาคราชสถิต ณ ถ้ำแห่งนี้ด้วย เมื่อเพ่งพิศแล้วมีมนต์ขลังน่าพิศวงยิ่งนัก ตั้งแต่เริ่มต้นปากถ้ำเดินเข้าสู่ถ้ำพญานาคราชคล้ายๆ มีมนต์สะกดเหมือนอยู่ในถ้ำใต้บาดาลและเป็นที่อยู่ของเหล่าพญานาคราชที่ดูแลถ้ำแห่งนี้และนอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐ์พระพุทธไสยาสน์องค์สีขาว

ภายในวัดมีความสงบเงียบ และร่มเย็น ความสวยงามไม่เหมือนที่ไหนๆ จนวัดนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพระพทธศาสนานั้นอยู่ที่ ถ้ำนาคาธิบดี หรือ ถ้ำพญานาค ซึ่งได้มีออกแบบพื้นที่ให้กลายเป็น วังบาดาล ที่สวยงามด้วยการจำลองหินงอกหินย้องานปูนปั้นพญานาคถือว่าสวยงามมีการจัดแสงได้ดี บรรยากาศเมื่อเข้าไปภายในถ้ำเสมือนอยู่ในถ้ำใต้บาดาล ภายในมีพระพุทธรูปและรูปปั้นพญานาคให้กราบไหว้ขอพร

เอกสารอ้างอิง

ฉันท์ สุวรรณบุณย์. (2515, ธันวาคม). ปราสาทหินศรีสะเกษ. วิทยาจารย์, 71(10), 5-14.