วัดพรหมสุรินทร์

59 ถนน พรหมเทพ ตำบล ในเมือง อำเภอ เมืองสุรินทร์ จังหวัด สุรินทร์ 32000

วันที่ 22 พฤษศจิกายน 2539 เวลา 16.15 น. พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงพระโปรดเกล้าฯ ให้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เสด็จแทนพระองค์ทรงตัดหวายลูกนิมิต

วัดพรหมสุรินทร์เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองวัดหนึ่งของเมืองสุรินทร์ สร้างประมาณ 300-500 ปีมาแล้ว ชื่อเดิมคือวัดทักษิณณรงค์ คนแก่อายุ 70 ปีขึ้นไป ที่อยู่ในตัวเมืองหรือนอกเมืองไกลออกไป เมื่อพูดถึงวัดพรหมสุรินทร์ก็ไม่ค่อยรู้จัพอบอกว่าวัดทักษิณณรงค์จะรู้จักกันดี เป็นวัดที่มีกำแพงเมืองเก่าอยู่ด้านทิศเหนือมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่และสวยงามอยู่ในอุโบสถ

ในระยะเวลาที่ท่านพระครูบวรวิชาณดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพรหมสุรินท์นั้น ท่านได้พิจารณาว่าสถานที่ตั้งวัดยังคับแคบไม่สะดวกและไม่เพียงพอต่อการพัฒนาให้เจริญก้าวหน้า ทั้งด้านถาวรวัตถุและด้านการศึกษาของพระภิกษุสามเณร จึงได้สละทุนทรัพย์ส่วนตัวซื้อที่ดินเพิ่มอีกจำนวน 3 แปลง และเสียสละที่ดินส่วนตัวจำนวน 1 แปลง นับเป็นพระสงฆ์ผู้เสียละและได้ทำคุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาอย่างมากมาย

 

วัดพรหมสุรินทร์ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองวัดหนึ่งของเมืองสุรินทร์ สร้างขึ้นประมาณ 300-500 ปี มาแล้ว ชื่อเดิม ชื่อวัดทักษิณณรงค์ เป็นวัดที่มีกำแพงเมืองเก่าอยู่ด้านทิศเหนือมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่และสวยงามอยู่ในอุโบสถเป็นคำบอกเล่าของคนแก่โบราณ  อนึ่ง ในระยะเวลาที่ท่านพระครูบวรวิชาญาณ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพรหมสุรินทร์นั้น ท่านได้พิจารณาว่าสถานที่ตั้งวัดยังคับแคบไม่สะดวกและไม่เพียงพอต่อการพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าทั้งด้านถาวรวัตถุและด้านการศึกษาของพระภิกษุสามเณร จึงได้สละทุนทรัพย์ส่วนตัวซื้อที่ดินเพิ่มจำนวน 3 แปลง และเสียสละที่ดินส่วนตัวจำนวน 1 แปลง นับว่าท่านเป็นพระสงฆ์ผู้เสียสละและได้ทำคุณประโยชน์แก่วัดพรหมสุรินทร์และพุทธศาสนาอย่างมากมาย

อุโบสถวัดพรหมสุรินทร์

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2512 โดยพลตำรวจตรีวิเชียร ศรีมันตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานวางศิลาฤกษ์อุโบสถ พ.ศ.2517 จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีประธานยกช้อฟ้าอุโบสถ

วันที่ 22 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2539 พระบาทสมเด็จ พระวิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งดำรงพระอิสริยยศ เป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ ทรงตัดหวายลูกนิมิตผูกพัทธสีมาอุโบสถและวางศิลาฤกษ์อาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรม ณ วัดพรหมสุรินทร์

หลวงพ่อฤทธิ์ เห็นว่าสถานที่ตั้งวัดทักษิณณรงค์เป็นที่คับแคบ จึงคิดหาที่สร้างวัดใหม่ มีคหบดีท่านหนึ่งชื่อตางัม ยายสวน ซึ่งเป็นต้นตระกูล ชูโฉมงาม เป็นผู้มีจิตศรัทธาได้มอบถวายที่ดินหนึ่งแปลงที่ตั้งวัดพรหมสุรินทร์ในปัจจุบัน

พระประธานในอุโบสถวัดพรหมสุรินทร์ มีขนาดหน้าตักกว้าง 35 นิ้ว สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ทั้งองค์ลักษณะแบบสมัยโบราณ ประทับนั่งขัดสมาธิราบบนฐานเรียบ รอบฐานมีจารึกอักษรขอม 1 บรรทัด พระพักตร์เป็นสี่หลี่ยม มีไรพระศก ขมวดพระเกศาเล็กเป็นหนามขนุน พระรัศมีเป็นรูปดอกบัว พระขนงโก่ง พระเนตรเหลือบต่ำ พระโอษฐ์ยิ้ม พระกรรณยาว ครองจีวรห่มเฉียง ชายสังฆาฏิยาวปลายตัดตรง นิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกัน พระหัตถ์ขวาวางคว่ำอยู่กึ่งกลางพระชานุ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณ ศิลปวัตถุของชาติ

เอกสารอ้างอิง

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์. (2566). ปราสาทจอมพระ.  สืบค้นจาก  https://mocbackend.m-culture.go.th/province/ewt/surin/ewt_news.php?nid=3038&filename=index

เฉลิมเกียรติ กิจตระกูลรัตน์. (2528). ปราสาทหินบ้านพลวง ตำบลกังแอน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์. สารนิพนธ์ศิลปศาสตรบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร.