อีสาน… ดินแดนที่ราบสูง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือครอบคลุมพื้นที่ 160,000 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่บนแอ่งโคราชและแอ่งสกลนคร โดยลาดเอียงมาจากทิวเขาเพชรบูรณ์ทางทิศตะวันตกของภูมิภาค ลงไปยังแม่น้ำโขง ซึ่งกั้นประเทศลาวทางทิศเหนือและตะวันออกของภูมิภาค และทิศใต้กั้นประเทศกัมพูชาด้วยทิวเขาพนมดงรัก แอ่งโคราชจะอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีแม่น้ำสายหลัก คือ แม่น้ำมูล และแม่น้ำชี ทิศเหนือของแอ่งโคราชจะจรดแอ่งสกลนครโดยมีเทือกเขาภูพานกั้นไว้ แอ่งสกลนครมีแม่น้ำสายหลัก คือ แม่น้ำเลย และแม่น้ำสงคราม ดินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่เป็นทราย และแหล่งสะสมเกลือสินเธาว์
อีสาน
2442 ยกเลิกคำว่า “ลาว” เกิดคำว่า “อีสาน” และภาคอีสานนิยม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน มีพื้นที่ประมาณ 170,226 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 20 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุบลราชธานี และบึงกาฬ
ในปี พ.ศ.2434 ราชสำนักกรุงเทพฯ ได้รวมหัวเมืองต่างๆ มาเป็นมณฑล แต่ยังไม่ได้จัดเป็นแบบเทศาภิบาล จนถึง พ.ศ. 2437 จึงได้ตั้งเป็นมณฑลเทศาภิบาล โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี 3 มณฑล
มณฑลลาวกลาง
พระยาประสิทธิศิลปการ เป็นข้าหลวงเทศาภิบาล มีที่บัญชาการมณฑลอยู่ที่เมืองนครราชสีมา ประกอบด้วย 3 เมือง คือ นครราชสีมา, ชัยภูมิ และบุรีรัมย์
มณฑลลาวพวน
พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นข้าหลวงต่างพระองค์ ก่อน พ.ศ. 2436 มีหัวเมืองทางฝั่งซ้ายรวมอยู่ด้วย และมีแคว้นพวนเป็นแคว้นใหญ่ มีเมืองเชียงขวางเป็นเมืองสําคัญ และทรงตั้งชื่อมณฑลลาวพวนตามชื่อ เมืองพวน ภายหลัง พ.ศ. 2436 เมืองในมณฑลนี้จึงเหลือเพียง 6 เมือง คือ อุดรธานี ขอนแก่น นครพนม สกลนคร เลย หนองคาย ตั้งที่บัญชาการอยู่ที่เมืองอุดรธานี (เดิมอยู่ที่หนองคาย)
จังหวัดใหม่ในอีสาน
เพื่อให้การปกครองได้สะดวกในการดูแลประชาชนของจังหวัดขนาดใหญ่จึงได้มีการแบ่งเขตการปกครองใหม่ขึ้นในตอนหลัง
ดารารัตน์ เมตตาริกานนท์. (2546). การเมืองสองฝั่งโชง. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มติชน.
ภูมิภาคที่มีความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรมและประเพณี ในแต่ละท้องถิ่นจะมีความเชื่อ ค่านิยม ศาสนา วิถีชีวิต และอาชีพที่บ่งบอกอัตลักษณ์ของคนในถิ่นนั้นได้เป็นอย่างดี ภาคอีสานการเป็นศูนย์รวมของประชากรหลากหลายเชื้อชาติ การอพยพย้ายถิ่นที่อยู่ การกวาดต้อนไพร่พล หรือจากการหนีภัยสงครามเมื่อครั้งอดีต และมีการติดต่อสื่อสารกับประเทศเพื่อนบ้านทำให้ความหลากหลายทางวัฒนธรรมเกิดขึ้น
การเปิดรับและเรียนรู้สิ่งใหม่จะทำให้เห็นโลกนี้มีหลายมุมหลายมิติ
unknown-นิรนาม


