วนอุทยานพนมสวาย

วนอุทยานแห่งชาติพนมสวาย หรือเขาสวาย ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2 ตำบลคือ ตำบลนาบัว ตำบลสวาย มีเนื้อที่ 1,975 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาสวายท้องที่ตำบลนาบัว อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ “พนมสวาย” เป็นคำภาษาพื้นที่เมืองสุรินทร์ “พนม” แปลว่าภูเขา “สวาย” แปลว่า “มะม่วง”

วนอุทยานแห่งชาติพนมสวาย
เปิดให้เข้าชมในเวลาทำการ : ทุกวัน 8.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม: คนละ 20 บาท โทร  044 518 132

เขาสวาย เป็นบริเวณของภูเขา 3 ลูกติดต่อกัน ตั้งอยู่ใน ตำบลนาบัว อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ที่มีชื่อว่า ยอดเขาชาย (พนมเปราะ) ยอดเขาหญิง (พนมสรัย) และ เขาคอก (พนมกรอล) ซึ่ง เขาพนมสวาย นั้น คือบริเวณของ ภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว 

            ลูกที่ 1 มีชื่อว่ายอดเขาชาย (พนมเปราะ) สูง 210 เมตร เป็นที่ตั้งของวัดพนมสวาย มีบันไดก่ออิฐถือปูนขึ้นถึงวัด ระหว่างทางเรียงรายไปด้วยระฆังจำนวน 1,080 ใบให้ผู้มาเยือนเคาะเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังมีสระน้ำกว้างใหญ่และร่มรื่นด้วยต้นไม้ บนเขาเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสุรินทรมงคล เป็นพระพุทธรูปสีขาว ปางประทานพร ภปร. ขนาดหน้าตักกว้าง 15 เมตร สูง 21.50 เมตร มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุที่บริเวณพระนาภี

             ลูกที่ 2 มีชื่อว่ายอดเขาหญิง (พนมสรัย) สูงระดับ 228 เมตร เป็นที่ตั้งของวัดพนมศิลารามทางวัดได้จัดสร้างพระพุทธรูปองค์ขนาดกลางประดิษฐานบนยอดเขา และยังมีสระน้ำโบราณ 2 สระที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของเต่าศักดิ์สิทธิ์

ลูกที่ 3 มีชื่อว่าเขาคอก (พนมกรอล) พุทธสมาคมจังหวัดสุรินทร์ได้จัดสร้างศาลาอัฏฐะมุขเป็นอนุสรณ์ฉลองครบรอบ 200 ปี แห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เพื่อประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง จากยอดเขาชายมาประดิษฐานไว้ในศาลา ใกล้กันนั้นมีสถูปที่เก็บอัฐิธาตุพระราชวุฒาจารย์ หรือหลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระเกจิสายวิปัสสนา วัดพนมศิลาราม และศาลเจ้าแม่กวนอิม ให้ประชาชนได้เคารพบูชา

วนอุทยานพนมสวาย  เป็นภูเขาบนที่ราบทำนาของจังหวัดสุรินทร์ คือ พนมพรอล พนมเปร๊าะ และพนมสรัย ทั้งสามลูกรวมกันกลายเป็นเขาพนมสวาย ผืนป่าขนาดเล็กไม่ไกลจากตัวเมืองสุรินทร์บรรยากาศร่มรื่นสวยงาม ผู้ที่มาเยือนเขาพนมสวายจะได้สักการะ 9  สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล คือ พระใหญ่หรือพระพุทธสุรินทรมงคล อัฐิหลวงปู่ดุล อตุโล พระพุทธรูปองค์ดำ หลวงปู่สวน รอยพระพุทธบาทจำลอง  ศาลเจ้าแม่กวนอิม เต่าศักดิ์สิทธิ์ และสระน้ำศักดิ์สิทธิ์

 

ในอดีตบรรพบุรุษชาวสุรินทร์ถือว่าเขาพนมสวายเป็นสถานที่แสวงบุญ โดยจะมีการเดินทางไปขึ้นยอดเขาในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ซึ่งเป็นวันหยุดงานตามประเพณีของชาวจังหวัดสุรินทร์มาแต่โบราณ และยังถือปฏิบัติเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ผู้ที่มาเยือนเขาพนมสวายจะได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองทั้ง 9 ของชาวสุรินทร์เพื่อความเป็นสิริมงคล อันได้แก่ พระใหญ่หรือพระพุทธสุรินทรมงคล รอยพระพุทธบาทจำลอง อัฐิหลวงปู่ดุล อตุโล พระพุทธรูปองค์ดำ หลวงปู่สวน ปราสาทหินพนมสวาย ศาลเจ้าแม่กวนอิม เต่าศักดิ์สิทธิ์ และสระน้ำศักดิ์สิทธิ์

ซุ้มประตู เป็นซุ้มที่สลักลวดลายสวยงาม สถาปัตยกรรมขอมโบราณ มีทางเดินจากทางเข้าอุทยานไปจนถึงซุ้มประตู ในเขตวนอุทยานพนมสวาย จะได้สมผัสกับบรรยากาศของความเขียวขจี

พระพุทธสุรินทรมงคล

สำหรับเขาชาย หรือเขาพนมเปราะ มีบันไดก่ออิฐถือปูนยาวเหยียดขึ้นไปถึงด้านบนยอดเขา แต่ระหว่างทางซึ่งเป็นบันไดนั้นมีระฆัง 1,080 ใบ แขวนอยู่ตลอดสองข้างทาง ซึ่งเมื่อปี พ.ศ.2550 ซึ่งเป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางจังหวัดสุรินทร์และคณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมกันจัดหาระฆังจากทุกวัดในจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 1,070 ใบ และได้รับมอบระฆังจากวัดสำคัญอีก 10 ใบ รวมเป็น 1,080 ใบ

เมื่อเดินขึ้นไปจะพบกับศาลาหลังเล็กหลังหนึ่ง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ดำ อยู่ด้านหน้าของพระพุทธสุรินทรมงคล เป็นศาลาที่สร้างด้วยลวดลายสลักงดงามศิลปะแบบขอมโบราณ

พระพุทธสุรินทรมงคล พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่เด่นสง่ามองเห็นได้แต่ไกล เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมจิตใจชาวเมืองสุรินทร์ เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางประทานพร หน้าตักกว้าง 15 เมตร องค์พระเป็นโครงคอนกรีตเสริมเหล็กองค์สีขาวบริสุทธิ์ พระเนตรขาวประดับด้วยเปลือกหอยมุก พระเนตรดำทำด้วยโลหะทองเหลืองผสมทองแดงหล่อรมดำ ประทับนั่งขัดสมาธิบนฐานที่ประทับที่มีบัวคว่ำบัวหงาย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามไว้ โดยสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือน มกราคม พ.ศ. 2520 ดำเนินการสร้างโดยพุทธสมาคมจังหวัดสุรินทร์

ส่วนอีกยอดเขาหนึ่งของเขาพนมสวาย คือ ยอดเขาหญิง เป็นที่ตั้งของวัดพนมศิลาราม ทางวัดได้จัดสร้างพระพุทธรูปองค์ขนาดกลางประดิษฐานบนยอดเขา และยังมี “สระน้ำโบราณ” 2 สระที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของ “เต่าศักดิ์สิทธิ์” 2 ตัว ต่อมาภายหลังเกิดภัยอันตรายเต่าทั้งสองจึงได้อพยพเพื่อลงจากเขา แต่ขณะที่เดินทางถึงเพียงไหล่เขาก็เกิดอาการแข็งตัว กลายเป็นเต่าหินขนาดใหญ่ 2 ตัว ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ

วัดพนมศิลาราม มีอุโบสถที่โดดเด่นขนาดใหญ่ใช้เป็นวิหารและศาลา มีวิหารพระสังกัจจายน์ ให้ประชาชนได้กราบไหว้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติพร้อมกับทำบุญไหว้พระสบายใจไปพร้อมกัน

ยอดหนึ่งคือเขาคอก หรือพนมกรอล พุทธสมาคมจังหวัดสุรินทร์ได้จัดสร้าง “ศาลาอัฏมุข” เป็นอนุสรณ์ฉลองครบรอบ 200 ปี แห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อประดิษฐาน “รอยพระพุทธบาทจำลอง” ซึ่งย้ายมาจากบนยอดเขาชาย โดยเริ่มทำการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2524 และสำเร็จบริบูรณ์ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2525 ใกล้กันนั้นมีสถูปสถานที่เก็บอัฐิธาตุพระราชวุฒาจารย์ หรือหลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระเกจิสายวิปัสสนา วัดพนมศิลาราม และศาลเจ้าแม่กวนอิม ให้ประชาชนได้เคารพบูชา

เอกสารอ้างอิง

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์. (2566). ปราสาทจอมพระ.  สืบค้นจาก  https://mocbackend.m-culture.go.th/province/ewt/surin/ewt_news.php?nid=3038&filename=index

เฉลิมเกียรติ กิจตระกูลรัตน์. (2528). ปราสาทหินบ้านพลวง ตำบลกังแอน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์. สารนิพนธ์ศิลปศาสตรบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร.