ปราสาทเมืองต่ำ

ปราสาทเมืองต่ำ ตั้งอยู่ตำบลจระเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ การเดินทางจากอำเภอนางรอง ตามทางหลวงสาย 24 ถึงบ้านตะโก มีทางแยกด้านขวามือเข้าปราสาท

ประวัติความเป็นมาของปราสาทหินเมืองต่ำยังไม่ทราบชัด เพราะไม่พบหลักฐานที่แน่นอนว่าสร้างขึ้นเมื่อใดหรือใครเป็นผู้สร้าง แต่จากการศึกษาภาพสลัก และลวดลายที่รากฏอยู่พบว่าส่วนใหญ่มีลักษณะของศิลปะขอมแบบบาปวน ซึ่งมีอายุอยู่ในราว พ.ศ.1550-1625 โดยมีลักษณะของศิลปะขอมแบบคลัง ซึ่งมีอายุราว พ.ศ. 1508-1555 ปะปนอยู่ ภาพสลักส่วนใหญ่เป็นภาพเทพในศาสนาฮินดู จึงอาจกล่าวได้ว่าปราสาทแห่งนี้คงจะสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้เป็นศาสนถานในศาสนาฮินดู

ปราสาทเมืองต่ำ ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างหลักคือปรางค์อิฐ 5 องค์ สร้างอยู่บนฐานเดียวกันก่อด้วยศิลาแลง องค์ปรางค์ทั้ง 5 ตั้งเรียงกันเป็น 2 แถว ตามแนวเหนือ-ใต้ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก แถวหน้า 3 องค์ แถวหลัง 2 องค์ ปรางประธานซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ตรงกลางแถวหน้า คงเหลืออยู่เพียงส่วนฐาน ส่วนองค์อื่น ๆ ยังคงเหลือสภาพอยู่มาก แต่ไม่สมบูรณ์ทั้งหมด มีประตูเข้าสู่ภายในปรางค์ได้ด้านเดียวคือ ด้านทิศตะวันออก ด้านอื่นทำเป็นประตูหลอกต่างกันแต่ปรางค์ประธานมีมุขหน้าอีกชั้นหนึ่ง

การขุดแต่งบริเวณปรางค์ประธานได้พบทับหลัง ประตูมุขปรางค์ สลักเป็นภาพเทพถือดอกบัวขาบประทับนั่งเหนือหน้ากาล แวดล้อมด้วยสตรีเป็นบริวาร หน้าบันสลักภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ส่วนทับหลังประตูปรางค์สลักเป็นภาพเทพนั่งชันเขาเหนือหน้ากาลและยังได้พบชิ้นส่วนลวดลายปูนปั้นประดับฐานอีกด้วย แสดงว่าปรางค์เหล่านี้ได้เคยมีปูนฉาบและปั้นปูนเป็นลวดลายประดับตกแต่งอย่างงดงาม สำหรับปรางค์บริวารอีก 4 องค์นั้น ยังคงมีทับหลังติดอยู่เหนือประตูทางเข้า 2 องค์ คือ องค์ที่อยู่ทางทิศเหนือของแถวหน้า และองค์ทิศใต้ของแถวหลัง สลักภาพพระศิวะอุ้มนางอุมาบนพระเพลา ประทับนั่งอยู่บนหลังโคนนทิ และภาพพระวรุณทรงหงส์ ตามลำดับ

จากการขุดแต่งได้พบยอดปรางค์ทำด้วยหินทรายสลักเป็นรูปดอกบัวตกอยู่ในบริ เวณใกล้ ๆ กับฐานปรางค์นั่นเอง หน้ากลุ่มปรางค์ยังมีวิหารเป็นอาคารก่ออิฐอีก 2 หลัง ตั้งหันหน้าตรงกับปรางค์ที่อยู่ด้านข้างทั้งสององค์

สิ่งก่อสร้างดังกล่าว ล้อมรอบด้วยกำแพง 2 ชั้น กำแพงชั้นในก่อด้วยหินทราบเป็นห้องแคบๆ ยาวต่อเนื่องกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม ที่เรียกว่าระเบียงคด กำแพงชั้นนอกเป็นกำแพงศิลาแลง กำแพงทั้งสองชั้นมีซุ้มประตู่อยู่ในแนวตรงกันทั้ง 4 ด้าน ซุ้มประตูทั้งหมดยกเว้นซุ้มของประตูชึ้นในด้านทิศตะวันตกก่อด้วยหินทรายสลักลวดลายในส่วนต่าง ๆ อย่างงดงามตั้งแต่หน้าบัน ทับหลัง เสาติดผนัง ฯลฯ เป็นภาพเล่าเรื่องในศาสนาฮินดูและลวดลายที่ผูกขั้นจากใบไม้ ดอกไม้ที่มักเรียกรวมๆ ว่าลายพันธุ์พฤกษา

ระหว่างกำแพงชั้นในและกำแพงชั้นนอก เป็นลานกว้างปูด้วยศิลาแลง ที่มุมทั้ง 4 มีสระขุดเป็นรูปหักมุมตามแนวกำแพงอยู่ทั้ง 4 มุม กรุขอบสระด้วยแท่งหินแลงก่อเรียงเป็นขั้นบันไดลงไปยังก้นสระ ขอบบนสุดทำด้วยหินทราบเป็นลำตัวนาคซึ่งชูคอแผ่พังพานอยู่ที่มุมสระเป็นนาค 5 เศียรเกลี้ยง ๆ ไม่มีเครื่องประดับ

หน้ากำแพงชั้นนอกด้านทิศตะวันออก ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัด ยังมีร่องรอยว่าคงจะเคยมีทางเดินเข้าสู่ประตูกำแพงทางด้านนนี้ สองฟากทางเดินยังมีสระนำ และมีฐานอาคารอยู่ริมทางเดินอีก 1 หลัง และยังมีบารายหรือสระนำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า ทะเลเมืองตจ่ำอยู่ทางด้านทิศเหนือของปราสาท สระน้ำแห่งนี้คงจะเป็นแหล่งน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคที่สำคัญของชุมชนในบริเวณนั้น กลางขอบสระน้ำด้านยาวทั้งสองด้าน ยังมีชานกว้างบันไดท่าน้ำปูด้วยศิลาแลงเหลืออยู่อย่างชัดเจน

ปราสาทเมืองต่ำ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอนที่ 75 วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478